Sriwan Janehuttakarnkit

 1953, Bangkok, Thailand

Sriwan Janehuttakarnkit graduated from Silpakorn University with Bachelor’s and Master’s degrees in Fine Arts in 1976 and 1979, respectively. She received SPAFA Scholarship for a Training Art Teacher to study further in the Philippines in 1996.

The artist received numerous awards such as, SilphaBhirasri Creativity Grant and best alumnus award at the Pohchang Academy of Arts and Silpakorn University, as well as silver medal and bronze medal for print works at the 23rd and 24th National Exhibition of Art. Sriwan spends most of her life teaching art in many universities in Thailand, especially in Bangkok, counting up to 30 years. After retirement, she left the city to reside in Chiang Rai and founded Sridonmoon Art Space close to where her home and studio.

Sriwan is a leading female artist in Thailand. She received a Master’s degree in Fine Arts (Graphic) and a Bachelor’s degree in Fine Arts (Graphic) Silpakorn University in 1979 and 1976 respectively. She was an Associate Professor, Faculty of Fine Arts, Faculty of Architecture King Mongkuts Institute of Technology Ladkrabang, Bangkok from 1996-2009.

Sriwan has created paintings, print art, sculptures, and ceramic works out of natural inspiration and personality. Like breathing, she goes through her own pace with no frustration, enabling depiction of story and content from the feelings of those very moment. She tries to understand bodily and emotional changes as related to Buddhist philosophy.

During her early years as an artist, Sriwan made herself known through her painting of lush urban night life filled with people overlaid in bright colors. The people in the painting continued to recur in her later works, but in different colors and changed to overlaid skeletons instead. This is shown in her latest solo exhibition Dharma, Nature, and Normality

Sriwan’s long established career had opted her to travel and exhibit around the world including, Espace Pierre Cardin in Paris, Pacific Asia Museum in California and The German Contemporary Graphic Arts in West Germany.

The artist received numerous awards such as, SilphaBhirasri Creativity Grant 2002, The Rockefeller Foundation in 1997, and Training Art Teacher, University of  Philippine in 1984.

ศรีวรรณ เจนหัตถการกิจ

เกิดปี พ.ศ. 2496, กรุงเทพฯ พำนักและทำงานที่ เชียงราย ประเทศไทย

ศรีวรรณ เจนหัตถการกิจ จบการศึกษาจากโรงเรียนเพาะช่างในปี พ.ศ. 2513 และศึกษาต่อระดับปริญญาตรีและโท สาขาภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้รับทุน SPAFA Scholarship for a Training Art Teacher ให้ไปศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยฟิลิปปินส์ ในปีพ.ศ. 2539 เคยได้รับทุนศาสตราจารย์ศิลป์ พีระศรี และรางวัลศิษย์เก่าดีเด่นของโรงเรียนเพาะช่าง และมหาวิทยาลัยศิลปากร รวมทั้งรางวัลเหรียญทองแดง และเหรียญเงิน ประเภทภาพพิมพ์ จากการแสดงศิลปกรรมแห่งชาติ ครั้งที่ 23 และ 24 ตามลำดับ ศรีวรรณใช้ช่วงเวลาส่วนใหญ่ของชีวิต เป็นอาจารย์สอนศิลปะให้กับมหาวิทยาลัยหลายแห่งในประเทศไทยโดยเฉพาะที่กรุงเทพฯ นาน 30 ปี หลังจากถึงวัยเกษียณจึงเดินทางไปพำนักและสร้างงานศิลปะที่อำเภอเชียงแสน จังหวัดเชียงราย และได้ก่อตั้ง “ศรีดอนมูลอาร์ตสเปซ” ในบริเวณเดียวกับบ้านพักและสตูดิโอของเธอ

ศรีวรรณสร้างงานจิตรกรรม, ภาพพิมพ์, ประติมากรรม และงานเซรามิคจากแรงบันดาลใจและ วิธีการสร้างสรรค์ที่เป็นไปตามธรรมชาติและลักษณะนิสัยส่วนตัว เหมือนกับการหายใจ ศิลปินทำงานไปตามจังหวะของตัวเองโดยไม่มีความเครียด เรื่องราวและเนื้อหาในผลงานสะท้อนถึงความคิดและอารมณ์ความรู้สึกในเวลานั้น และการพยายามทำความเข้าใจกับความเเปลี่ยนแปลงทางร่างกายและจิตใจ ตามหลักปรัชญาศาสนาพุทธ

ในยุคต้นๆ งานที่เป็นที่รู้จักและสร้างชื่อเสียงให้กับศรีวรรณอย่างมากคือ ภาพเขียนคนเมืองในโลกแห่งแสงสีและมายายามราตรี ที่มีใบหน้าและโครงร่าง ซ้อนทับกันไปมาด้วยสีฉูดฉาด ซึ่งในช่วงหลายปีที่ผ่านมาภาพหมู่คนเหล่านั้น ก็กลับมาปรากฎในผลงานของเธออีก แต่มีลักษณะที่เปลี่ยนไปเป็นโครงกระดูกซ้อนทับกันแทน เช่นในนิทรรศการเดี่ยวล่าสุดของเธอ “ธรรมะ ธรรมดา ธรรมชาติ” ปี 2558 ศิลปินใช้เทคนิคที่หลากหลายทั้งภาพเขียนสีน้ำมันบนผ้าใบ สีน้ำบนกระดาษ ประติมากรรม และเซรามิค ที่สร้างสรรค์ขึ้นตลอดระยะเวลาเกือบสิบปีที่ไปใช้ชีวิตอยู่บนดอย  การสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ คือการจากไปอย่างไม่มีวันกลับของบิดาและน้องชายในปีเดียวกัน ทำให้การมองโลกของศรีวรรณเปลี่ยนไป เธอพบว่าจริงๆ แล้วเรามาพบกันเพื่อที่จะจาก และชีวิตของคนเรานั้นไม่แน่นอน

นิทรรศการสำคัญที่ผ่านมาของเธอมี อาทิ พ.ศ. 2526 และ 2530 นิทรรศการผลงานจิตรกรรมและภาพพิมพ์ ณ หอศิลป์ พีระศรี กรุงเทพฯ, พ.ศ. 2533 “มนุษย์กับธรรมชาติ” ณ Witch & Tavern กรุงเทพฯ, พ.ศ. 2536 “สีสันของศรีวรรณ” ณ บ้านเจ้าพระยา กรุงเทพฯ, พ.ศ. 2540 ร่วมแสดงงานที่ไดอาล็อค แกลเลอรี่ กรุงเทพฯ, พ.ศ. 2544 ร่วมแสดงงานที่ เจเนซีส อาร์ตติส แกลลอรี่ สีลมแกลลอเรีย กรุงเทพ, พ.ศ. 2548  นิทรรศการศิลปกรรม “รูปธรรม – นามธรรม” ณ โรสกาเด้น แกลเลอรี่, โรงแรมโรสการ์เด้นเอไพร์ม รีสอร์ท นครปฐม, พ.ศ. 2553 “จารึกเมืองสยาม โลกียะ – โลกุตระ” หอศิลป์คณะจิตรกรรม ประติมากรรมและภาพพิมพ์ฯ มหาวิทยาลัยศิลปากร กรุงเทพ, พ.ศ. 2558 นิทรรศการเดี่ยว “ธรรมะ ธรรมชาติ ธรรมดา” หอศิลป์วังหน้า สถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ กรุงเทพฯ